ข่าวทองคำ – ตลาดโลหะมีค่านิวยอร์ค:ทองปรับขึ้นหลังสหรัฐเผยเงินเฟ้อต่ำสุดรอบ 2 ปี

ข่าวทองคำ – ตลาดโลหะมีค่านิวยอร์ค:ทองปรับขึ้นหลังสหรัฐเผยเงินเฟ้อต่ำสุดรอบ 2 ปี

นิวยอร์ค–3 ก.ค.–รอยเตอร์

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้น 11.42 ดอลลาร์ สู่ 1,919.57 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันศุกร์ โดยได้รับแรงหนุนจากตัวเลขอัตราเงินเฟ้อที่ระดับต่ำในสหรัฐ ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานในวันศุกร์ว่า ดัชนีราคาค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) นิยมใช้ ขยับขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ค.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากปรับขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย. และปรับขึ้น 3.8% ในเดือนพ.ค.เมื่อเทียบรายปี ซึ่งถือเป็นอัตราเงินเฟ้อที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2021 หรือต่ำที่สุดในรอบ 2 ปี โดยชะลอตัวลงจาก 4.3% ในเดือนเม.ย.เมื่อเทียบรายปี ทางด้านดัชนี PCE พื้นฐานที่ไม่รวมราคาอาหารและพลังงานปรับขึ้น 0.3% ในเดือนพ.ค.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากปรับขึ้น 0.4% ในเดือนเม.ย. ส่วนดัชนี PCE พื้นฐานแบบเทียบรายปีปรับขึ้น 4.6% ในเดือนพ.ค. หลังจากปรับขึ้น 4.7% ในเดือนเม.ย.เมื่อเทียบรายปี

• ราคาสัญญาทองล่วงหน้าปิดตลาดปรับขึ้น 0.6% สู่ 1,929.40 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทางด้านราคาโลหะเงินในตลาดสปอตปิดปรับขึ้น 0.202 ดอลลาร์ สู่ 22.752 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนราคาพลาตินั่มในตลาดสปอตปิดปรับขึ้น 6.86 ดอลลาร์ สู่ 901.25 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาพัลลาเดียมในตลาดสปอตปิดขยับลง 1.93 ดอลลาร์ สู่ 1,227.35 ดอลลาร์/ออนซ์

• ราคาทองสปอตดิ่งลงราว 2.5% ในไตรมาสสอง และถือเป็นการปิดตลาดรายไตรมาสในแดนลบเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ไตรมาส โดยราคาทองได้รับแรงกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป โดยราคาทองเคยพุ่งขึ้นแตะ 2,072 ดอลลาร์ในเดือนพ.ค. ซึ่งใกล้เคียงกับสถิติสูงสุด โดยราคาทองได้รับแรงหนุนในช่วงนั้นจากความกังวลเรื่องวิกฤติภาคธนาคารในสหรัฐ อย่างไรก็ดี ราคาทองดิ่งลงแตะ 1,892.82 ดอลลาร์ในวันพฤหัสบดี ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 มี.ค. หรือจุดต่ำสุดรอบ 3 เดือน ทั้งนี้ นายแดเนียล พาวิโลนิส นักยุทธศาสตร์การลทงุนตลาดของบริษัทอาร์เจโอ ฟิวเจอร์สกล่าวว่า วิกฤติภาคธนาคาร “เคยส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีดิ่งลง เพราะนักลงทุนคาดการณ์กันในตอนนั้นว่า เฟดจะมีความจำเป็นต้องยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย” แต่นักลงทุนก็ล้มเลิกการคาดการณ์ดังกล่าว หลังจากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค. และปัจจัยดังกล่าวก็ส่งผลลบต่อราคาทอง

• ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอยู่ที่ 102.90 ในช่วงท้ายวันศุกร์ โดยอ่อนค่าลงจาก 103.33 ในช่วงท้ายวันพฤหัสบดี โดยดัชนีดอลลาร์ปิดตลาดไตรมาสสองด้วยการแข็งค่าขึ้น 0.3% จากไตรมาสแรก และการแข็งค่าของดอลลาร์ก็ส่งผลให้ทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ ทางด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีปรับลงจาก 3.854% ในช่วงท้ายวันพฤหัสบดี สู่ 3.819% ในช่วงท้ายวันศุกร์ แต่อัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยิลด์) ปิดตลาดไตรมาสสองด้วยการพุ่งขึ้นจาก 3.490% ในช่วงสิ้นไตรมาสแรก และการพุ่งขึ้นของบอนด์ยิลด์ก็ส่งผลลบต่อราคาทอง เพราะทองเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ดอกเบี้ย

• เทรดเดอร์คาดการณ์ว่า มีโอกาส 15.9% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. และมีโอกาส 84.1% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. โดยโอกาสดังกล่าวปรับลดลงจาก 89.3% ที่เคยคาดไว้ในวันพฤหัสบดี ทั้งนี้ นายโอเล แฮนเสน หัวหน้าฝ่ายแผนยุทธศาสตร์การลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์ของธนาคารแซกโซกล่าวว่า “ในระยะอันสั้นนั้น ราคาทองอาจจะเผชิญแรงกดดันอย่างต่อเนื่องจากแนวโน้มที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป และจากการที่บอนด์ยิลด์ที่แท้จริงในสหรัฐปรับขึ้นเข้าใกล้หรือแตะจุดสูงสุดของวัฏจักร”

Eikon source text

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

เปิดบัญชีเทรด