ข่าวทองคำ – ตลาดโลหะมีค่านิวยอร์ค:ทองร่วงลงขณะบอนด์ยิลด์สหรัฐพุ่งขึ้น

ข่าวทองคำ – ตลาดโลหะมีค่านิวยอร์ค:ทองร่วงลงขณะบอนด์ยิลด์สหรัฐพุ่งขึ้น

นิวยอร์ค–20 เม.ย.–รอยเตอร์

• ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐร่วงลง 11.67 ดอลลาร์ สู่ 1,993.26 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพุธ หลังจากราคาทองดิ่งลง 1.8% ในระหว่างวันจนแตะจุดต่ำสุดของวันที่ 1,969.09 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. หรือจุดต่ำสุดรอบ 2 สัปดาห์ โดยราคาทองร่วงผ่านระดับสำคัญที่ 2,000 ดอลลาร์ลงมา ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากนักลงทุนปรับลดการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในช่วงต่อไปในปีนี้ ทั้งนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 2 ปี ซึ่งมักจะปรับตัวตามการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยของเฟด ปรับขึ้นจาก 4.199% ในวันอังคาร สู่ 4.265% ในช่วงท้ายวันพุธ หลังจากพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดรอบ 1 เดือนที่ 4.286% ในระหว่างวัน ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปี ปรับขึ้นจาก 3.572% ในช่วงท้ายวันอังคาร สู่ 3.602% ในช่วงท้ายวันพุธ หลังจากทะยานขึ้นแตะ 3.639% ในระหว่างวัน ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค. หรือจุดสูงสุดในรอบเกือบ 1 เดือน โดยการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยิลด์) ส่งผลลบต่อราคาทอง เพราะทองเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ดอกเบี้ย

• ราคาสัญญาทองล่วงหน้าปิดตลาดปรับลง 0.6% สู่ 2,007.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทางด้านราคาโลหะเงินในตลาดสปอตปิดปรับขึ้น 0.050 ดอลลาร์ สู่ 25.258 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนราคาพลาตินั่มในตลาดสปอตปิดปรับขึ้น 7.50 ดอลลาร์ สู่ 1,090.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาพัลลาเดียมในตลาดสปอตปิดปรับขึ้น 7.82 ดอลลาร์ สู่ 1,616.11 ดอลลาร์/ออนซ์

• นายฟิลลิป สเตรเบิล หัวหน้านักยุทธศาสตร์การลงทุนตลาดของบริษัทบลู ไลน์ ฟิวเจอร์สกล่าวว่า “เมื่อราคาทองดิ่งผ่านระดับ 2,000 ดอลลาร์ลงมา ราคาทองก็พบกับคำสั่งขายตัดขาดทุนจำนวนมาก” และเขากล่าวเสริมว่า “เมื่อบริษัทสหรัฐรายงานผลกำไรออกมา นักลงทุนจำนวนมากก็เข้าซื้อหุ้นบริษัทบางแห่ง และส่งผลให้นักลงทุนไม่ได้เข้ามาลงทุนมากนักในตลาดโลหะ” ทั้งนี้ การปรับขึ้นของบอนด์ยิลด์สหรัฐช่วยหนุนดอลลาร์ให้แข็งค่าขึ้นในวันพุธ โดยดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอยู่ที่ 101.99 ในช่วงท้ายวันพุธ โดยปรับขึ้นจาก 101.72 ในช่วงท้ายวันอังคาร และการแข็งค่าของดอลลาร์ก็ส่งผลให้ทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ

• เครื่องมือ FedWatch ของบริษัท CME บ่งชี้ว่า นักลงทุนในตลาดสัญญาล่วงหน้าคาดว่า มีโอกาส 85.7% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค. ทั้งนี้ นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์กล่าวในการให้สัมภาษณ์ต่อรอยเตอร์ว่า เฟดควรที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจในระยะนี้แสดงให้เห็นว่า ภาวะเงินเฟ้อยังคงดำเนินต่อไป และเศรษฐกิจสหรัฐในวงกว้างดูเหมือนว่าจะยังคงเติบโตต่อไป ถึงแม้ว่าอาจจะเป็นการเติบโตอย่างเชื่องช้า และเขากล่าวเสริมว่า เขามีแนวโน้มสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.75% สู่ 5.50-5.75% ในอนาคต

• ซูกิ คูเพอร์ นักวิเคราะห์ของธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดกล่าวว่า นักลงทุนเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้นว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนพ.ค. และปัจจัยดังกล่าวก็กดดันราคาทองให้ดิ่งลงสู่ระดับต่ำกว่า 2,000 ดอลลาร์ในระยะสั้นเป็นอย่างน้อย ทั้งนี้ นักลงทุนจะรอฟังถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดในสัปดาห์นี้ ในขณะที่เจ้าหน้าที่เฟดจะงดแสดงความเห็นตั้งแต่วันที่ 22 เม.ย.เป็นต้นไป ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมในวันที่ 2-3 พ.ค.

Eikon source text

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

เปิดบัญชีเทรด