รูปแบบราคาที่จะเข้าซื้อหรือขาย (Price Pattern)
ข้อมูลจากอดีต ที่มีสถิติบอกอนาคตให้เห็นเป็นตัวอย่าง(ได้ผล) สามารถเลือกนำไปใช้ได้ตามความเหมาะสม ก็ไม่ได้มากมายอะไร แล้วทำไมต้องไปศึกษาอะไร วุ่นวาย มากมาย เยอะแยะ ให้มันปวดหัวทำไม??? ซึ่งในรูปแบบของราคานั้นก็จะสัมพันธ์ใน timeframe แต่ละ timeframe ก็จะดูประกอบกัน
สำหรับท่านใดที่มุ่งมั่น ขยัน มั่นเพียร เก็บเกี่ยวความรู้ต่างๆที่เป็นประโยชน์ต่อการลงทุน ท่านทำถูกต้องดีแล้วครับ ขอเป็นกำลังใจ ให้สู้ๆต่อไปนะครับ ที่เกริ่นๆออกมาแนวนี้ ก็เผื่อเอาใจ นักลงทุนบางท่านที่ค่อนข้างจะขี้เกียจ ซึ่งมันก็ไม่ค่อยจะเข้าท่าเท่าไหร่ และตัวผู้เขียนเองก็เป็นเหมือนกัน 5555 อย่าว่ากันเลยนะครับ
ในบทความนี้จะมาพูดถึงรูปแบบกราฟ หรือรูปแบบราคา (Price Pattern) ที่มันช่วยบอกอนาคตได้ โดยอิงสถิติจากอดีต ที่เป็นที่ยอมรับกัน แต่เวลาเอามาใช้ ก็ใช่ว่ามันจะได้ผลเสมอไป หรือเหมาะกับทุกคนนะครับ เพราะรูปแบบราคาที่ว่านี้เขา ศึกษากันทั้งโลก แล้วเมื่อคนส่วนใหญ่มองเห็นเหมือนกัน ก็ต้องมีคนบางส่วนที่มองต่าง แล้วถ้าคนบางส่วนที่มองต่างนั้นเป็นขาใหญ่ (ใหญ่มากๆระดับเจ้ามือ) สามารถเทซื้อหรือขาย ให้ราคาไม่ไปตามทางที่คนส่วนมากมองกัน นั่นก็คือ งานเข้า ทุนหายกำไรหด แม่งเม่าโดดเข้ากองไฟโดนเล่นงานไปตามๆกันก็เห็นมาเยอะ ฉนั้นไม่มีสูตรไหนตายตัว หรือดีที่สุดครับ เพราะดวงจะมีหรือไม่มีโชค มันก็มีส่วนอยู่เหมือนกัน สำหรับสไตล์การเทรดนั้นก็มีหลายแบบ บางท่านก็อาจจะมีเทคนิคการเทรดแบบเป็นระบบ หรือบางท่านก็อาจจะเทรดกราฟเปล่าๆ แบบ Price Action แต่ในขณะที่บางท่านก็ชอบใช้อินดี้ด้วยกลยุทธ์ต่างๆนาๆ ในการทำกำไร สรุปไม่ว่าใครจะเป็นเทรดเดอร์สไตล์ไหน แต่ถ้าทำแล้วมันได้กำไร แบ่งเงินมาให้ผมใช้ด้วยบ้างก็ดีนะครับ (แฮะๆแซวเล่นครับ)
รูปแบบราคาที่บอกแนวโน้มอนาคตได้ (Price Pattern) แบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ
-
รูปแบบราคา ทิศทางต่อเนื่อง (Continuation Pattern)
-
รูปแบบราคา เปลี่ยนทิศทาง (Reversal Pattern)
- รูปแบบราคา ยังไม่ไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง (Sideway Pattern)
ตัวอย่าง ข้อ 1 รูปแบบราคา ทิศทางต่อเนื่อง (Continuation Pattern)
1.1รูปแบบราคาทิศทางต่อเนื่อง (Continuation Pattern) ขาขึ้น (Bullish)
1.2 รูปแบบราคา ทิศทางต่อเนื่อง (Continuation Pattern) ขาลง (Bearish)