ข่าวทองคำ-ตลาดโลหะมีค่านิวยอร์ค:ทองดีดขึ้นหลังแตะจุดต่ำสุด 3 เดือน
นิวยอร์ค–16 มิ.ย.–รอยเตอร์
-
ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐปรับขึ้น 14.66 ดอลลาร์ สู่ 1,957.65 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพฤหัสบดี หลังจากดิ่งลงแตะ 1,924.99 ดอลลาร์ในระหว่างวัน ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 17 มี.ค. หรือจุดต่ำสุดรอบ 3 เดือน โดยราคาทองได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐ และจากการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐในวันพฤหัสบดี หลังจากมีการรายงานตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมา โดยปัจจัยบวกนี้ช่วยชดเชยแรงกดดันที่ราคาทองได้รับจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณแบบสายเหยี่ยวในวันพุธ ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอยู่ที่ 102.14 ในช่วงท้ายวันพฤหัสบดี โดยร่วงลงจาก 102.93 ในช่วงท้ายวันพุธ หลังจากดิ่งลงแตะ 102.08 ในระหว่างวัน ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดรอบ 5 สัปดาห์ โดยการร่วงลงของดอลลาร์ช่วยให้ทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ ทางด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีปรับลงจาก 3.798% ในช่วงท้ายวันพุธ สู่ 3.728% ในช่วงท้ายวันพฤหัสบดี และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยิลด์) ก็ส่งผลบวกต่อราคาทอง เพราะทองเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ดอกเบี้ย
-
ราคาสัญญาทองล่วงหน้าปิดตลาดขยับขึ้น 0.1% สู่ 1,970.7 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทางด้านราคาโลหะเงินในตลาดสปอตปิดปรับลง 0.073 ดอลลาร์ สู่ 23.855 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนราคาพลาตินั่มในตลาดสปอตปิดพุ่งขึ้น 10.25 ดอลลาร์ หรือ 1.05% สู่ 985.50 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาพัลลาเดียมในตลาดสปอตปิดทะยานขึ้น 13.77 ดอลลาร์ หรือ 0.99% สู่ 1,399.69 ดอลลาร์/ออนซ์
-
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานในวันพฤหัสบดีว่า ยอดผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกทรงตัวที่ 262,0000 รายในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 10 มิ.ย. ซึ่งสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ในโพลล์รอยเตอร์ที่ 249,000 ราย ทั้งนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานในวันพฤหัสบดีว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐปรับลดลง 0.2% ในเดือนพ.ค. ซึ่งสวนทางกับโพลล์รอยเตอร์ที่คาดว่า ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมอาจปรับขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 0.5% ในเดือนเม.ย.
-
นายจิม วิคคอฟ นักวิเคราะห์ของบริษัทคิทโคกล่าวว่า ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐส่งผลกระทบต่อดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตร และส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อชดเชยการทำชอร์ตเซลในทอง โดยเขาคาดว่าราคาทองจะเคลื่อนตัวไซด์เวย์หรือปรับลดลงในระยะใกล้ ทั้งนี้ เขากล่าวเสริมว่า การที่ราคาทองดิ่งลงแตะจุดต่ำสุดรอบ 3 เดือนในวันพฤหัสบดีจะส่งผลลบในทางเทคนิคต่อราคาทอง และระบุว่า “ตัวเลขเศรษฐกิจในวันพฤหัสบดีจะไม่ส่งผลกระทบมากเท่ากับผลการประชุมเฟดในวันพุธ”
-
เฟดประกาศคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.00-5.25% ตามความคาดหมายในวันพุธ แต่เฟดส่งสัญญาณบ่งชี้ว่า อัตราดอกเบี้ยอาจจะปรับขึ้นอีก 0.50% ก่อนสิ้นเดือนธ.ค.ปีนี้ ในขณะที่เฟดแสดงปฏิกิริยาต่อเศรษฐกิจสหรัฐที่อยู่ในภาวะแข็งแกร่งเกินคาด และต่ออัตราเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงอย่างเชื่องช้า ทั้งนี้ เทรดเดอร์คาดการณ์ในตอนนี้ว่า มีโอกาสราว 30.8% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. และมีโอกาสราว 69.2% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ค. นอกจากนี้ เทรดเดอร์ยังคาดการณ์อีกด้วยว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงก่อนสิ้นเดือนธ.ค.ปีนี้
Eikon source text
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)