ข่าวทองคำ – ASIA:ทองปรับลงขณะดอลล์แข็งค่าหลังสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงาน
10 เม.ย.–รอยเตอร์
-
ราคาทองปรับลดลงในการซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ที่ตลาดเอเชีย ในขณะที่ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรในวันศุกร์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานสหรัฐอยู่ในภาวะตึงตัว และรายงานตัวเลขดังกล่าวช่วยกระตุ้นการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค. ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานในวันศุกร์ว่า การจ้างงานนอกภาคเกษตรในสหรัฐพุ่งขึ้น 236,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. ซึ่งใกล้เคียงกับตัวเลขคาดการณ์ที่ 239,000 ตำแหน่ง และทางกระทรวงได้ปรับทบทวนตัวเลขของเดือนก.พ.ให้สูงขึ้นด้วย โดยระบุว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตรทะยานขึ้น 326,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ซึ่งสูงกว่าตัวเลขเดิมที่ +311,000 ตำแหน่ง ทางด้านอัตราการว่างงานปรับลงจาก 3.6% ในเดือนก.พ. สู่ 3.5% ในเดือนมี.ค.
-
ราคาทองสปอตร่วงลงสู่ 1,995.49 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงเช้าวันนี้ จาก 2,008.02 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันพฤหัสบดี หลังจากตลาดทองปิดทำการในวันศุกร์ที่ 7 เม.ย. เนื่องในวัน Good Friday ในเทศกาลอีสเตอร์ ส่วนราคาโลหะเงินปรับลง 0.9% สู่ 24.796 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงเช้าวันนี้ จาก 25.005 ในช่วงท้ายวันพฤหัสบดี ทางด้านราคาพลาตินั่มปรับลง 0.36% สู่ 1,003.83 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงเช้าวันนี้ จาก 1,007.43 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันพฤหัสบดี ในขณะที่ราคาพัลลาเดียมขยับลง 0.01% สู่ 1,466.12 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงเช้าวันนี้ จาก 1,466.32 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันพฤหัสบดี ทั้งนี้ อุปสงค์ในทองจริงในตลาดเอเชียชะลอตัวในสัปดาห์ที่แล้ว ในขณะที่ราคาทองที่ระดับสูงในเอเชียส่งผลให้ดีลเลอร์ในบางตลาดพยายามดึงดูดลูกค้าด้วยการเสนอส่วนลดสำหรับราคาทอง
-
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินขยับขึ้นสู่ 102.16 ในช่วงเช้าวันนี้ โดยปรับขึ้นจาก 102.12 ในช่วงท้ายวันศุกร์ และ 101.91 ในช่วงท้ายวันพฤหัสบดี โดยการแข็งค่าของดอลลาร์ส่งผลให้ทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
-
ก่อนที่สหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานออกมาในวันศุกร์ นักลงทุนในตลาดสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยเคยคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนพ.ค. แต่หลังจากสหรัฐรายงานตัวเลขการจ้างงานออกมา นักลงทุนก็คาดการณ์ในช่วงนี้ว่า มีโอกาสเพียง 29.7% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.75-5.00% ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค. และมีโอกาส 70.3% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค. นอกจากนี้ นักลงทุนยังคาดการณ์อีกด้วยว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงหลายครั้งก่อนสิ้นปีนี้ โดยอัตราดอกเบี้ยสหรัฐอาจจะอยู่ที่ระดับราว 4.358% ในเดือนธ.ค.
-
นายคลาส น็อต ซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นทั้งประธานธนาคารกลางเนเธอร์แลนด์ และสมาชิกคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) กล่าวในวันศุกร์ว่า ขณะนี้ยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า อีซีบีจำเป็นจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% หรือไม่ในเดือนพ.ค. และมีความเป็นไปได้หรือไม่ที่อีซีบีจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในการประชุมวันที่ 4 พ.ค. ทั้งนี้ นักลงทุนกำลังรอดูการประชุมประจำฤดูใบไม้ผลิปี 2023 ของธนาคารโลกกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงวอชิงตันดีซีในวันที่ 10-16 เม.ย.–จบ–
Eikon source text
(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)