ทรัพย์ทางโลกและทรัพย์ทางธรรม

ทรัพย์ทางโลกและทรัพย์ทางธรรม

ทรัพย์ทางโลกและทรัพย์ทางธรรม นั้น ถ้าถามว่าอยากได้ทรัพย์ทางไหนมากกว่ากัน คำตอบที่ได้จากหลายๆคนก็คงจะแตกต่างกันไป  ดังนั้นแล้ว คงขึ้นอยู่กับว่าแต่ละคนมีความเชื่อหรือมีความคิดอย่างไร มีเป้าหมายในชีวิตแบบไหน  เราก็มาดูกันว่าทรัพย์ทางโลกและทรัพย์ทางธรรมนั้น จะได้มาอย่างไร ซึ่งวิธีการของแต่ละบุคคลนั้นย่อมแตกต่างกันไป สำหรับแนวทางของผู้เขียนก็จะขอนำเสนอให้ผู้ที่สนใจนำไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิตได้

ทรัพย์ทางโลก

ต้องบอกว่าทรัพย์ทางโลกนั้น เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับชีวิต เนื่องจากสังคมปัจจุบันนี้ เงินทองเป็นปัจจัยสำคัญในการดำเนินชีวิต แทบจะทุกอย่างต้องใช้เงินทั้งนั้น ตั้งแต่เกิดจนถึงวันที่เสียชีวิต ก็ต้องมีเงินเป็นปัจจัย ถ้าไม่มีเงินแล้ว ก็จะทำให้การดำเนินชีวิตต้องพบกับความยากลำบาก และสร้างความทุกข์ใจในการดำเนินชีวิตได้  ดังนั้นพื้นฐานของชีวิต การหาทรัพย์ทางโลกเพื่อเป็นทุนในการดำเนินชีวิตนั้นก็เป็นเรื่องสำคัญจะหลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งแต่ละบุคคลนั้นก็จะมีความถนัดในแต่ละเรื่องไม่เหมือนกันดังนั้นแนวทางการหาทรัพย์ทางโลกนั้นก็แตกต่างกันไป บางคนชอบค้าขาย ทำธุรกิจส่วนตัว บางคนชอบงานที่มั่นคงเช่นรับราชการ ก็ต้องศึกษาและทำความเข้าใจในแต่ละอาชีพของตนเองให้ดีเพื่อจะประสบความสำเร็จได้

แต่หลักสำคัญในการหาทรัพย์ทางโลกที่สำคัญก็คือการใช้ชีวิตแบบพอเพียง ไม่สร้างหนี้ให้เป็นภาระเกินความสามารถ และต้องเก็บเงินออมเงินเพื่อใช้ในยามจำเป็น ดังนั้นหลักความพอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 นั้นจึงนำมาปรับใช้ได้เป็นอย่างดี แล้วชีวิตก็จะมีความสุขแบบพอเพียง และมีโอกาสได้แสวงหาหรือสะสมทรัพย์ทางธรรมได้แบบที่ไม่มีอุปสรรคใดๆ

ทรัพย์ทางธรรม

ทรัพย์ทางธรรมนัั้น ก็คือคุณงามความดีที่เราได้ทำทั้งในอดีดและปัจจุบัน  ซึ่งมีหลายอย่างในการที่จะให้มีซึ่งทรัพย์ทางธรรม เช่น การทำทาน  การฟังธรรม  การรักษาศีล การสวดมนต์เป็นประจำ การปฏิบัติธรรม เดินจงกรม  นั่งสมาธิ  รวมทั้งทำความดีทุกๆอย่าง ล้วนเป็นการสะสมทรัพย์ทางธรรม ซึ่งถือว่ามีความสำคัญของทุกชีวิต เนื่องจากชีวิตในภพชาตินี้ของเราไม่ได้เป็นภพสุดท้าย มีการเวียนว่ายตายเกิดมานับไม่ถ้วน ดั่งที่พระพุทธองค์ได้สอนเอาไว้  ดังนั้นเราก็ควรจะสั่งสมบุญบารมีเอาไว้

สำหรับผู้เขียนนั้นก็มีความมุ่งหมายที่จะไม่เกิดอีก จึงได้ปฏิบัติธรรมต่างๆ เพื่อให้มีบุญบารมีเพียงพอในการบรรลุธรรมในภพชาตินี้หรือภพภูมิต่อไปอย่างไม่เนิ่นช้า  ท่านที่สนใจในการปฏิบัติธรรมนั้นก็ต้องศึกษาแนวทางของพระพุทธองค์เป็นหลัก  ปฏิบัติตาม อริยมรรค 8 ทำความเข้าใจ อริยสัจ 4 และไตรลักษณ์  และศึกษาแนวทางของครูบาอาจารย์ที่ท่านได้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบและได้บรรลุธรรมเป็นแนวทางให้เราได้เพียรปฏิบัติต่อไป

สำหรับผู้เขียนนั้นต้องบอกว่า ถึงแม้ว่าทรัพย์ทางโลกนั้นจะสำคัญ แต่ทรัพย์ทางธรรมนั้นสำคัญยิ่งกว่า เนื่องจากผู้เขียนนั้นก็เป็นพุทธศาสนิกชนธรรมดาคนหนึ่ง  ที่เชื่อเรื่องนรก สวรรค์ เชื่อเรื่องบาปบุญ เชื่อในเรื่องการเวียนว่ายตายเกิด ดังนั้นแล้วเราจึงประมาทไม่ได้เลย ทรัพย์ทางโลกนั้นถึงแม้จะอำนวยความสะดวกให้เราได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ไม่ขัดสน แต่ถ้าต้องจากโลกนี้ไปในวันหนึ่งนั้นถ้าต้องจากโลกนี้ไปแล้วทรัพย์ทางโลกที่หาไว้ ทรัพย์สินเงินทอง ไม่สามารถนำเอาไปได้แม้แต่นิดเดียว หรือถ้าชีวิตเราเหลือเพียงวินาทีเดียวก็จะทราบว่าเงินทองนั้นไม่ได้สำคัญเลย

สิ่งที่จะติดตัวไปในภพภูมิต่อไปคือ บุญและกรรม ที่เราได้สร้างเหตุเอาไว้  ดังนั้นต้องจากโลกนี้ไปในวันหนึ่ง และถ้ายังไม่มีบุญบารมีเพียงพอที่จะบรรลุธรรม ก็ขอให้ได้ไปในสุคติภูมิ เพื่อได้บำเบ็ญปฏิบัติธรรมต่อไปเพื่อไห้ได้รู้แจ้งพระนิพพานในภพภูมิที่สูงขึ้น หรือให้ได้มีบุญวาสนามาเกิดอีกในโลกมนุษย์เพื่อปฏิบัติธรรมให้ถึงซึ่งการบรรลุธรรมหรือบรรลุนิพพานตามที่พระพุทธองค์ได้ชี้ทางเอาไว้ ตามทาง มรรคมีองค์ 8 เราเพียงแค่เดินตามด้วยความเพียรจะถึงจุดหมายได้อย่างแน่นอนครับ

เรียบเรียงโดย ทีม forextrader2win.com