ข่าวทองคำ – ตลาดโลหะมีค่านิวยอร์ค:ทองร่วงลงขณะบอนด์ยิลด์ปรับขึ้น

ข่าวทองคำ – ตลาดโลหะมีค่านิวยอร์ค:ทองร่วงลงขณะบอนด์ยิลด์ปรับขึ้น

นิวยอร์ค–27 เม.ย.–รอยเตอร์

  • ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐร่วงลง 8.39 ดอลลาร์ สู่ 1,989.48 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพุธ ในขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับขึ้น โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีปรับขึ้นจาก 3.398% ในช่วงท้ายวันอังคาร สู่ 3.43% ในช่วงท้ายวันพุธ หลังจากดิ่งลงแตะ 3.375% ในระหว่างช่วงการซื้อขายวันพุธ ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ โดยการปรับขึ้นของอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (บอนด์ยิลด์) ส่งผลลบต่อราคาทอง เพราะทองเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ดอกเบี้ย ทั้งนี้ นักลงทุนมุ่งความสนใจไปยังตัวเลขเศรษฐกิจต่าง ๆ ที่จะได้รับการรายงานออกมาในช่วงนี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาสแรกที่รัฐบาลสหรัฐจะรายงานออกมาในวันพฤหัสบดี และดัชนีราคาค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐานประจำเดือนมี.ค.ที่รัฐบาลสหรัฐจะรายงานออกมาในวันศุกร์ โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มักใช้ดัชนี PCE พื้นฐานเป็นมาตรวัดภาวะเงินเฟ้อ

  • ราคาสัญญาทองล่วงหน้าปิดตลาดร่วงลง 8.50 ดอลลาร์ หรือ 0.42% สู่ 1,996 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทางด้านราคาโลหะเงินในตลาดสปอตปิดปรับลง 0.155 ดอลลาร์ สู่ 24.890 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนราคาพลาตินั่มในตลาดสปอตปิดปรับขึ้น 3.93 ดอลลาร์ สู่ 1,090.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาพัลลาเดียมในตลาดสปอตปิดพุ่งขึ้น 28.51 ดอลลาร์ หรือ 1.92% สู่ 1,512.29 ดอลลาร์/ออนซ์

  • ราคาทองสปอตพุ่งขึ้นแตะ 2,009.32 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในระหว่างช่วงการซื้อขายวันพุธ โดยได้รับแรงหนุนจากความกังวลเรื่องวิกฤติภาคธนาคารในสหรัฐ ในขณะที่หุ้นธนาคารเฟิร์สท์ รีพับลิก ซึ่งถือเป็นธนาคารระดับภูมิภาคในสหรัฐดิ่งลง 29.8% ในวันพุธ และรูดลงแตะสถิติต่ำสุดใหม่เป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน โดยหุ้นเฟิร์สท์ รีพับลิกดิ่งลงมาแล้ว 96.1% จากช่วงต้นปีนี้ด้วย ทั้งนี้ นักลงทุนกังวลกับข่าวที่ว่า รัฐบาลสหรัฐไม่เต็มใจที่จะเข้าแทรกแซงในกระบวนการช่วยเหลือเฟิร์สท์ รีพับลิก หลังจากยอดเงินฝากในธนาคารแห่งนี้ดิ่งลงกว่า 1.00 แสนล้านดอลลาร์ในไตรมาสแรก ทางด้านนายแดเนียล แกลี นักยุทธศาสตร์การลงทุนสินค้าโภคภัณฑ์ของบล.ทีดีกล่าวว่า “ปัจจัยดังกล่าวกระตุ้นให้ราคาทองปรับขึ้นเล็กน้อย” แต่การใช้ระบบคอมพิวเตอร์ในการส่งคำสั่งซื้อขายอัตโนมัติตามกระแสในตลาด ส่งผลให้สถานะซื้อทองแตะขีดสูงสุดแล้ว และราคาทองก็ร่วงลงในเวลาต่อมา

  • ราคาทองร่วงลงในวันพุธ ถึงแม้ว่าดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอ่อนค่าลงสู่ 101.39 ในช่วงท้ายวันพุธ จาก 101.81 ในช่วงท้ายวันอังคาร โดยราคาทองได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนต้องการซื้อสินทรัพย์เสี่ยงมากยิ่งขึ้น หลังจากบริษัทหลายแห่งในสหรัฐเปิดเผยผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ทั้งนี้ นักลงทุนในตลาดสัญญาล่วงหน้าคาดว่า มีโอกาส 20.8% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.75-5.00% ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค. และมีโอกาส 79.2% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค. และนักลงทุนยังคาดการณ์กันอีกด้วยว่า เฟดอาจจะหยุดพักจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงหลังจากนั้น และอัตราดอกเบี้ยอาจจะร่วงลงสู่ระดับราว 4.374% ในเดือนธ.ค.

  • ราคาทองเคยพุ่งขึ้นแตะจุดสูงสุดในรอบกว่า 1 ปีที่ 2,048.71 ดอลลาร์ในช่วงกลางเดือนเม.ย. โดยได้รับแรงหนุนจากวิกฤติภาคธนาคาร ทั้งนี้ นายพอล หว่อง นักยุทธศาสตร์การลงทุนตลาดของบริษัทสปรอทท์ แอสเซท แมเนจเมนท์กล่าวว่า “เทรดเดอร์รายย่อยยังคงลงทุนในระดับที่ต่ำเกินไปเป็นอย่างมากในช่วงนี้ และปัจจัยนี้อาจจะช่วยหนุนราคาทองได้ในอนาคต โดยเฉพาะถ้าหากนักลงทุนปรับเพิ่มการคาดการณ์เรื่องการปรับลดอัตราดอกเบี้ย”

Eikon source text

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

เปิดบัญชีเทรด

ข่าวทองคำ