ข่าวฟอเร็กซ์-ตลาดเงินนิวยอร์ค:ดอลล์ปรับขึ้นขณะสหรัฐเผยเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง

ข่าวฟอเร็กซ์-ตลาดเงินนิวยอร์ค:ดอลล์ปรับขึ้นขณะสหรัฐเผยเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง

นิวยอร์ค–3 เม.ย.–รอยเตอร์

• ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับยูโรในวันศุกร์ แต่ดอลลาร์/ยูโรปิดตลาดสัปดาห์นี้ในแดนลบเป็นสัปดาห์ที่ 5 ติดต่อกัน ซึ่งถือเป็นการปิดตลาดรายสัปดาห์ในแดนลบติดต่อกันยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2020 เป็นต้นมา ในขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานในวันศุกร์ว่า ปริมาณการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคสหรัฐชะลอการเติบโตในเดือนก.พ. หลังจากพุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในเดือนม.ค. ส่วนอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐส่งสัญญาณชะลอตัวลง แต่ยังคงอยู่ในระดับสูง และปัจจัยนี้อาจจะกระตุ้นให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในปีนี้ ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ปริมาณการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค ซึ่งครองสัดส่วนสูงกว่า 2 ใน 3 ของกิจกรรมทางเศรษฐกิจในสหรัฐ ปรับขึ้น 0.2% ในเดือนก.พ. หลังจากพุ่งขึ้น 2.0% ในเดือนม.ค. ส่วนดัชนีราคาค่าใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งถือเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดนิยมใช้ ปรับขึ้น 5.0% ในเดือนก.พ.เมื่อเทียบรายปี หลังจากพุ่งขึ้น 5.3% ในเดือนม.ค. ทางด้านดัชนี PCE พื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงาน ปรับขึ้น 4.6% ในเดือนก.พ.เมื่อเทียบรายปี หลังจากทะยานขึ้น 4.7% ในเดือนม.ค. โดยอัตราเงินเฟ้อนี้ยังคงอยู่สูงกว่าระดับเป้าหมายที่เฟดตั้งไว้ที่ 2%

• ดอลลาร์อยู่ที่ 132.79 เยน ในช่วงท้ายตลาดวันศุกร์ โดยแข็งค่าขึ้นจากระดับปิดตลาดวันพฤหัสบดีที่ 132.65 เยน ส่วนยูโรอยู่ที่ 1.0839 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันศุกร์ โดยร่วงลงจาก 1.0901 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันพฤหัสบดี และเทียบกับระดับ 1.0759 ดอลลาร์ในช่วงท้ายสัปดาห์ที่แล้ว ทางด้านดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอยู่ที่ 102.59 ในช่วงท้ายวันศุกร์ โดยปรับขึ้นจาก 102.17 ในช่วงท้ายวันพฤหัสบดี ทั้งนี้ ปอนด์อยู่ที่ 1.2328 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงท้ายวันศุกร์ โดยร่วงลงจาก 1.2387 ดอลลาร์ในช่วงท้ายวันพฤหัสบดี

• สำนักงานสถิติของสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) เปิดเผยในวันศุกร์ว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในยูโรโซนลดลงมากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนมี.ค. แต่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเร่งตัวขึ้น ซึ่งอาจจะหนุนเหตุผลให้ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก ทั้งนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทั่วไปของยูโรโซนเพิ่มขึ้น 6.9% ในเดือนมี.ค. หลังจากที่เพิ่มขึ้น 8.5% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นการชะลอตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่ยูโรสแตทเริ่มรวบรวมข้อมูลในปี 1991 เป็นต้นมา แต่ดัชนี CPI พื้นฐานที่ไม่รวมหมวดพลังงานและอาหาร เพิ่มขึ้น 7.5% ในเดือนมี.ค. ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดใหม่ หลังจากปรับขึ้น 7.4% ในเดือนก.พ.

• นักลงทุนในตลาดสัญญาล่วงหน้าคาดว่า มีโอกาสราว 38.6% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.75-5.00% ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค. และมีโอกาสราว 61.4% ที่เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 2-3 พ.ค. อย่างไรก็ดี นักลงทุนคาดว่า เฟดอาจจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในช่วงหลังจากนั้น และอัตราดอกเบี้ยในช่วงสิ้นปีนี้จะอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงต้นปีนี้ ทั้งนี้ นายสจ็วร์ต โคล หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์มหภาคของบริษัทเอควิที แคปิตัลกล่าวว่า “ผมคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ในเดือนพ.ค. ซึ่งจะถือเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งสุดท้าย แต่อีซีบีจะยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างแข็งกร้าวต่อไปจนถึงฤดูร้อน และปัจจัยนี้จะส่งผลบวกต่อยูโร/ดอลลาร์”

• นักลงทุนคาดว่า ในสัปดาห์หน้าธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) จะหยุดพักจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และคาดว่าธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ทั้งนี้ ดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลง 0.45% ในวันศุกร์ ส่วนดอลลาร์นิวซีแลนด์ขยับลง 0.1% หลังจากมีรายงานระบุว่า กิจกรรมภาคการผลิตของจีนชะลอการเติบโตในเดือนมี.ค.

Eikon source text

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)