ข่าวฟอเร็กซ์ – USA:ชี้ปริมาณเงินในสหรัฐดิ่งลงในอัตราเร็วสุดนับตั้งแต่ทศวรรษ 1930

ข่าวฟอเร็กซ์ – USA:ชี้ปริมาณเงินในสหรัฐดิ่งลงในอัตราเร็วสุดนับตั้งแต่ทศวรรษ 1930

• นายเจมี แมคกีเวอร์ ผู้เขียนคอลัมน์ของรอยเตอร์ระบุว่า ปริมาณเงินในสหรัฐกำลังดิ่งลงในช่วงนี้ในอัตราที่รวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่ทศวรรษ 1930 เป็นต้นมา และสิ่งนี้ถือเป็นสัญญาณเตือนทั้งต่อภาคเศรษฐกิจและตลาดการเงิน โดยปริมาณเงินในสหรัฐหดตัวลงเมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปีก่อนนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2022 เป็นต้นมา ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ และนายแมคกีเวอร์มองว่า นักลงทุนควรจะจับตามองเรื่องนี้ เพราะว่าการดิ่งลงของปริมาณเงินอาจจะส่งผลให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ, ราคาสินทรัพย์ และอัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงด้วยเช่นกัน

• ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รายงานในวันอังคารว่า ปริมาณเงิน M2 ซึ่งถือเป็นมาตรวัดปริมาณเงินสดและสินทรัพย์คล้ายเงินสดที่หมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจสหรัฐ ดิ่งลง 2.2% สู่ 21.099 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ.เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันในปีก่อนในส่วนของตัวเลขที่ไม่ได้ปรับตามปัจจัยด้านฤดูกาล ส่วนปริมาณเงิน M2 ที่ปรับตามปัจจัยด้านฤดูกาลรูดลง 2.4% เมื่อเทียบรายปี สู่ 21.063 ล้านล้านดอลลาร์ในเดือนก.พ.

• การดิ่งลงของปริมาณเงินมีสาเหตุหลักมาจากการหดกลับของสภาพคล่อง หลังจากสภาพคล่องเคยพุ่งขึ้นสูงมากโดยเป็นผลจากมาตรการทางการเงินและมาตรการทางการคลังที่ใช้ในการกระตุ้นเศรษฐกิจหลังเกิดวิกฤติโรคระบาด และปริมาณเงินก็ได้รับแรงกดดันจากการที่เฟดปรับลดขนาดงบดุลลง โดยผ่านทางการดำเนินมาตรการคุมเข้มเชิงปริมาณ (QT), จากปริมาณเงินฝากธนาคารที่ลดลง และจากอุปสงค์กับอุปทานที่อ่อนแอในการกู้เงินด้วย ทั้งนี้ การดิ่งลงของปริมาณเงินถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า เฟดไม่มีความจำเป็นจะต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกต่อไป และเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า เฟดควรจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในตอนนี้ด้วย เพราะว่าโดยปกติแล้วความเปลี่ยนแปลงด้านปริมาณเงินมักจะต้องใช้เวลาราว 1-2 ปีก่อนที่จะส่งผลกระทบต่อราคาสินทรัพย์และอัตราเงินเฟ้อ

• การดิ่งลงของปริมาณเงินในเดือนก.พ.นี้เกิดขึ้นก่อนที่ธนาคารซิลิคอน แวลลีย์ (SVB) จะล้มลงในวันที่ 10 มี.ค. และก่อนที่ธนาคารซิกเนเจอร์จะล้มลงในวันที่ 12 มี.ค. ในขณะที่การล้มลงของธนาคารทั้งสองกระตุ้นให้มีการออกมาตรการจัดสรรสภาพคล่องฉุกเฉินชั่วคราว และมาตรการช่วยเหลือจากเฟดที่มีขนาดหลายแสนล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ นายแมทท์ คิง ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาพคล่องจากธนาคารซิตี้กรุ๊ประบุว่า ถ้าหากการเติบโตของปริมาณเงินเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มสภาพคล่องและกระตุ้นเงินเฟ้อ การหดตัวของปริมาณเงินก็น่าจะส่งผลให้สภาพคล่องลดลงและอัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงด้วยเช่นกัน และเขากล่าวเสริมว่า “ปริมาณเงิน M2 คือสิ่งที่ช่วยกระตุ้นอัตราเงินเฟ้อของราคาสินทรัพย์ในวงกว้าง, อัตราเงินเฟ้อของผู้บริโภค, หุ้น และอสังหาริมทรัพย์ ดังนั้นรายงานตัวเลขล่าสุดนี้จึงถือเป็นการส่งสัญญาณในทางลบต่อปัจจัยทั้งหมดนี้ และมีแนวโน้มที่จะส่งผลให้เศรษฐกิจอ่อนแอลงในวงกว้างด้วย”

• M2 ครอบคลุมทั้งปริมาณเงินสด, เหรียญ, ธนบัตร, ตั๋วเงิน, เงินฝากธนาคาร และกองทุนตลาดเงิน (ตลาดตราสารหนี้ระยะสั้น) และถือเป็นมาตรวัดเงินสดและสินทรัพย์คล้ายเงินสดที่กว้างที่สุด ทั้งนี้ ปริมาณเงินเริ่มชะลอการเติบโตตั้งแต่ช่วงต้นปี 2021 โดยเป็นผลจากการเปรียบเทียบกับตัวเลขฐานในช่วงต้นของวิกฤติโรคระบาด และอัตราการเติบโตก็ชะลอตัวลงอย่างรวดเร็วยิ่งขึ้นเมื่อเฟดเริ่มดำเนิน QT และในเวลาต่อมา M2 ก็เริ่มหดตัวลงในเดือนธ.ค. 2022 ซึ่งถือเป็นการหดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่ทศวรรษ 1940 เป็นต้นมา อย่างไรก็ดี การกำหนดนโยบายไม่ได้ให้ความสำคัญกับปริมาณเงินมากนักในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากธนาคารกลางหลายแห่งเริ่มหันมาใช้อัตราดอกเบี้ยเป็นเครื่องมือหลักในการบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ

Eikon source text

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

เปิดบัญชีเทรด