ข่าวทองคำ – ตลาดโลหะมีค่านิวยอร์ค:ทองพุ่งขึ้น 1.5% เฟดส่งสัญญาณใกล้หยุดพักขึ้นดบ.

571

  • ราคาทองสปอตที่ตลาดสหรัฐพุ่งขึ้น 29.43 ดอลลาร์ หรือ 1.52% สู่ 1,969.58 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงท้ายตลาดวันพุธ หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ 4.75-5.00% ในวันพุธตามความคาดหมาย โดยเฟดคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกอย่างน้อย 0.25% สู่ 5.00-5.25% ก่อนสิ้นปี 2023 แต่มีความเป็นไปได้ที่ระดับดังกล่าวอาจจะเป็นจุดหยุดพักจุดแรกในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ทั้งนี้ หลังจากมีการสั่งปิดธนาคารซิลิคอน แวลลีย์ (SVB) และธนาคารซิกเนเจอร์ในสหรัฐในเดือนนี้ แถลงการณ์นโยบายของเฟดที่ออกมาในวันพุธก็ไม่ได้ระบุอีกต่อไปว่า “การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง” มีแนวโน้มว่าจะเป็นสิ่งที่เหมาะสม ถึงแม้เฟดเคยระบุแบบนั้นในแถลงการณ์นโยบายทุกครั้งนับตั้งแต่เฟดเริ่มต้นวัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันที่ 16 มี.ค. 2022 ก็ตาม โดยคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (FOMC) ระบุในวันพุธว่า “การคุมเข้มนโยบายเพิ่มเติมอีกบ้างอาจจะเป็นสิ่งที่เหมาะสม” ซึ่งเท่ากับเป็นการเปิดโอกาสให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ก่อนที่เฟดอาจจะหยุดพักจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

  • ราคาสัญญาทองล่วงหน้าปิดตลาดปรับขึ้น 0.4% สู่ 1,949.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทางด้านราคาโลหะเงินในตลาดสปอตปิดทะยานขึ้น 0.650 ดอลลาร์ หรือ 2.91% สู่ 23.025 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนราคาพลาตินั่มในตลาดสปอตปิดพุ่งขึ้น 9.25 ดอลลาร์ หรือ 0.95% สู่ 978.00 ดอลลาร์/ออนซ์ และราคาพัลลาเดียมในตลาดสปอตปิดทะยานขึ้น 62.55 ดอลลาร์ หรือ 4.51% สู่ 1,450.55 ดอลลาร์/ออนซ์

  • ดัชนีดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินอยู่ที่ 102.44 ในช่วงท้ายวันพุธ โดยร่วงลงจาก 103.17 ในช่วงท้ายวันอังคาร หลังจากดิ่งลงแตะ 102.04 ในระหว่างวัน ซึ่งถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 3 ก.พ. หรือจุดต่ำสุดในรอบเกือบ 7 สัปดาห์ โดยการอ่อนค่าของดอลลาร์ช่วยให้ทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ ทางด้านอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐประเภทอายุ 10 ปีร่วงลงจาก 3.606% ในช่วงท้ายวันอังคาร สู่ 3.500% ในช่วงท้ายวันพุธ และปัจจัยนี้ช่วยให้ทองมีความน่าดึงดูดมากยิ่งขึ้น เพราะทองเป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ดอกเบี้ย

  • นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดกล่าวในงานแถลงข่าวว่า เฟดไม่ได้คาดการณ์ว่าจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปี 2023 ทั้งนี้ ซูกิ คูเพอร์ นักวิเคราะห์ของธนาคารสแตนดาร์ด ชาร์เตอร์ดกล่าวว่า “เฟดจำเป็นจะต้องรักษาสมดุลระหว่างความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อกับเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ และทั้งสองปัจจัยนี้อาจจะกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยต่อไป”

  • ราคาทองพุ่งขึ้นมาแล้วกว่า 7% จากช่วงต้นเดือนนี้ และเข้าใกล้สถิติสูงสุดที่ระดับสูงกว่า 2,000 ดอลลาร์ที่เคยทำไว้ในเดือนมี.ค. 2020 โดยราคาทองได้รับแรงหนุนจากความกังวลที่มีต่อภาคธนาคารและภาคการเงินในเดือนนี้ ทั้งนี้ นายไท หว่อง เทรดเดอร์โลหะอิสระกล่าวว่า ถึงแม้ราคาทองลดช่วงบวกลงจากจุดสูงสุดของวันที่ 1,978.79 ดอลลาร์ ราคาทองก็พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่งในวันพุธ โดยได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า วัฏจักรการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสิ้นสุดลงแล้ว และเขากล่าวเสริมว่า “เฟดจะเผชิญกับอุปสรรคขนาดใหญ่ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้ง เพราะว่าเฟดกำลังจับตาดูภาวะการเงินที่ตึงตัวมากยิ่งขึ้น” อย่างไรก็ดี มีการตั้งข้อสงสัยว่า ราคาทองจะสามารถพุ่งขึ้นเหนือจุดสูงสุดของวันจันทร์ที่ผ่านมาที่ 2,009.59 ดอลลาร์ได้หรือไม่ เมื่ออัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอยู่ที่ 5%-

(รอยเตอร์ โดย จิตร โพธิ์แก้ว แปลและเรียบเรียง)

เปิดบัญชีเทรดจริง

ความเห็นถูกปิด แต่trackbacksละ Pingbacks are เปิด